อุทยานแห่งชาติภูเรือ อ.ภูเรือ จ.เลย (ดูภาพด้านล่าง)
หมายเหตุ : เนื้อหาและรูปภาพในหัวข้ออุทยานแห่งชาติภูเรือนี้มีด้วยกันทั้งหมด 2 หน้า ท่านสามารถ click link ตัวเลขที่ด้านล่างสุดของหน้า เพื่อชมข้อมูลและรูปภาพในหน้าต่าง ๆ ได้ตามความต้องการ
2. สนุกสนานกับการเล่นน้ำตกกลางป่าเขา น้ำตกซึ่งมีความโดดเด่นและมีขนาดใหญ่ที่สุดบนอุทยานแห่งชาติภูเรือ ได้แก่ “น้ำตกห้วยไผ่” อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯประมาณ 2.5 กม.และอยู่ห่างจากจุดกางแต็นท์ (ศูนย์บริการที่ 2) ประมาณ 4.2 กม. สายน้ำของน้ำตกห้วยไผ่จะไหลลงมาตามผาหินสูงประมาณ 30 เมตร การเดินเท้าเข้าสู่ตัวน้ำตกจะต้องลัดเลาะไปตามเนินดินและชะง่อนหินสูงๆต่ำๆภายในป่าดงดิบ บางช่วงต้องลุยน้ำข้ามลำห้วยตื้นๆ ใช้เวลาในการเดินทางอย่างน้อยประมาณ 1 – 2 ชม.กว่าจะสามารถเข้าไปถึงตัวน้ำตกได้ เนื่องด้วยเวลาอันจำกัดทำให้พวกเราทีมงานท่องเที่ยวดอทคอมไม่ได้เดินเข้าไปสำรวจยังน้ำตกแห่งนี้ (ตอนแรกทีมงานของเราลองเดินเข้าไปตามทางจากที่ทำการอุทยานฯสู่น้ำตกห้วยไผ่ เวลาประมาณ 16.30 น.แต่แล้วก็ต้องเปลี่ยนใจเมื่อพบว่าเส้นทางค่อนข้างเปลี่ยวและร่มครึ้มไปด้วยกิ่งใบของต้นไม้ใหญ่ ประกอบกับแสงอาทิตย์ก็ใกล้จะลาลับขอบฟ้าของวันแล้ว ทำให้พวกเราเกรงว่าอาจเกิดอันตรายได้หากยังดันทุรังเดินต่อเข้าไปจนถึงตัวน้ำตกและกลับออกมาในช่วงเวลาหลังพระอาทิตย์ตก) แต่หากใครสนใจจะลองเดินเข้าไปสำรวจน้ำตกใหญ่แห่งภูเรือนี้ล่ะก็ เราแนะนำว่าควรจะเดินทางเข้าสู่ตัวน้ำตกตั้งแต่ช่วงเช้า – สายเนื่องจากต้องใช้เวลาในการเดินทางเข้า – ออกตัวน้ำตกห้วยไผ่อย่างน้อยประมาณ 3 – 4 ชม.(ไม่รวมเวลาที่ใช้ขณะเล่นน้ำ – ถ่ายรูปอยู่ ณ ตัวน้ำตกนะครับ) ส่วนใครที่ไม่อยากลำบากลำบนอดทนฟันฝ่าหนทางให้เหนื่อยยากก็มีน้ำตกทางเลือกเล็กๆอยู่ใกล้กับจุดกางเต็นท์ (ศูนย์บริการที่ 2) ซึ่งสามารถเดินเข้าไปเล่นน้ำได้ง่ายๆอยู่อีก 2 – 3 แห่งคือ น้ำตกหินสามชั้น ,น้ำตกห้วยเตยและน้ำตกเลิศพบ
“น้ำตกหินสามชั้น” เป็นน้ำตกขนาดเล็กสูงไม่เกิน 10 เมตร สายน้ำไหลลดหลั่นลงมาตามชั้นหินใหญ่ลักษณะคล้ายขั้นบันได 3 ชั้นดูสวยงาม ด้านหน้าน้ำตกมีแอ่งเล็กๆให้พอลงนั่งแช่เล่นน้ำได้ น้ำตกหินสามชั้นอยู่ห่างจากศูนย์บริการที่ 2 ประมาณ 200 เมตร
“น้ำตกเลิศพบ” อยู่ถัดมาจากน้ำตกหินสามชั้นประมาณ 400 เมตร ระหว่างทางเดินจากน้ำตกหินสามชั้นมายังน้ำตกเลิศพบนี้จะผ่านทุ่งดอกไม้ป่าเล็กๆ ซึ่งจะออกดอกสีเหลืองชูช่ออวดโฉมอยู่เป็นกลุ่มๆ ยังความสดชื่นรื่นรมย์ให้กับผู้พบเห็นได้มากพอสมควร เดินเรื่อยๆยังไม่ทันจะเหนื่อยก็จะมาพบกับ “น้ำตกเลิศพบ” น้ำตกซึ่งมีลักษณะไม่ค่อยเหมือนน้ำตกสักเท่าไหร่เนื่องจากมีขนาดสูงแค่ไม่ถึง 2 เมตร กว้างประมาณ 7 เมตร ใครมีลูกเล็กเด็กแดงพามาเล่นน้ำที่น้ำตกแห่งนี้ได้ค่อนข้างปลอดภัยเพราะน้ำตื้นมาก แต่หากใครอยากจะเล่นน้ำตกขนาดใหญ่แบบถึงใจได้อารมณ์สนุกสนานเต็มที่คงไม่คุ้มค่าพอจะเดินมายังน้ำตกแห่งนี้แน่นอน
|
น้ำตกห้วยเตย และน้ำตกหินสามชั้นบนเส้นทางธรรมชาติของอุทยานแห่งชาติภูเรือ
|
|
เพียงคุณแวะมาชม จะพบกับความงามเล็ก ๆ ที่ซ่อนอยู่ในอุทยานแห่งชาตินี้ |
“น้ำตกห้วยเตย” อยู่ใกล้กับศูนย์บริการที่ 2 ประมาณ 200 เมตรแต่เดินไปคนละทางกับน้ำตกหินสามชั้น ใครอยากลองไปดูต้องสังเกตป้ายบอกทางดีๆแล้วค่อยๆเดินไปตามเสียงน้ำตก ระหว่างทางสู่น้ำตกห้วยเตยนี้ก็มีทุ่งดอกไม้ป่าขนาดย่อมให้ยลเฉกเช่นเดียวกับทางเดินสู่น้ำตกเลิศพบ เมื่อไปถึงตัวน้ำตกจะสังเกตเห็นต้นเตยขึ้นเป็นหย่อมๆอยู่บริเวณริมแอ่งน้ำด้านหน้า น้ำตกห้วยเตยนี้จะแยกออกเป็นสองฝั่งแต่ไหลลงมารวมยังธารน้ำสายเดียวกันตรงกลาง หากหันหน้าเข้าตรงกึ่งกลางผาหินเตี้ยๆระหว่างน้ำตกสองฝั่งจะพบว่าน้ำตกฝั่งซ้ายมือจะมีลักษณะลาดเอียงคล้ายกระดานลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนน้ำตกฝั่งขวามือไหลตกลงมาจาเพิงผาหน้าตัดสูงประมาณ 3 เมตร สามารถลงเล่นน้ำบริเวณแอ่งด้านหน้าได้แต่ต้องระมัดระวังโขดหินน้อยใหญ่ใต้น้ำพอสมควร
สำหรับ “น้ำตกหินสามชั้น” , “น้ำตกเลิศพบ” และ “น้ำตกห้วยเตย” นี้นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ไม่นิยมมาเล่นน้ำเนื่องจากน้ำตกมีขนาดค่อนข้างเล็กไม่สวยงามกว้างใหญ่เหมือน “น้ำตกห้วยไผ่” แต่เส้นทางเข้าสู่น้ำตกทั้ง 3 แห่งข้างต้นนั้นจะสะดวกสบายกว่าการเข้าไปยังน้ำตกห้วยไผ่มาก
3.เดินเที่ยวในสวนหินรูปร่างแปลกตา รอเพลายลอาทิตย์อัศดง ภายในอุทยานแห่งชาติภูเรือนี้มีหมู่หินรูปร่างแปลกตาเป็นงานประติมากรรมซึ่งธรรมชาติได้สรรค์สร้างไว้อยู่หลายแห่ง ได้แก่ “หินเต่า” ที่คุณจะพบระหว่างทางลาดยางจากที่ทำการอุทยานฯสู่ผาโหล่นน้อย ตั้งอยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯประมาณ 2.8 กม. หินเต่านี้มีลักษณะคล้ายกับเต่ากำลังผงกหัวออกจากกระดอง หากอยากเข้าไปถ่ายรูปแบบใกล้ชิดสามารถขับรถมาจอดบริเวณลานดินเล็กๆซึ่งปกคลุมไปด้วยต้นหญ้าใกล้ๆกับหินเต่าได้ (เป็นจุดพักรถขนาดเล็กจอดรถได้ไม่เกิน 3 คันครับ) “หินพระศิวะ” คือหินรูปร่างคล้ายคลึงกับศิวลึงค์ตั้งอยู่ใกล้กับจุดชมทิวทัศน์พระอาทิตย์ขึ้นบนยอดภูเรือ เพียงลงจากรถสองแถวของอุทยานฯก็จะเห็นหินพระศิวะนี้ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่ชัดเจน
“สวนหินพาลี” ต้องเดินจากจุดกางเต็นท์ (ศูนย์บริการที่ 2) ผ่านธารน้ำเล็กๆเข้าไปอีกประมาณ 800 เมตรก็จะพบกับทุ่งหญ้ากว้างที่แซมประดับไปด้วยหินก้อนใหญ่น้อย ต้นสนและดอกไม้ป่านานาพันธุ์ หินบางกลุ่มก็เอียงพิงกันเป็นลักษณะคล้ายกับกระโจม บางก้อนก็มีฐานแคบแต่ส่วนยอดแผ่ออกคล้ายพานหินขนาดใหญ่ ในขณะที่บางส่วนก็ไม่มีรูปร่างโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์แต่อย่างใด บริเวณสวนหินพาลีนี้นอกจากจะเป็นที่ทัศนาหมู่หินรูปร่างแปลกตาแล้วยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกบนยอดภูเรืออีกด้วย (มีป้ายปักไว้ด้านหน้าหินก้อนหนึ่งในสวนหินพาลีว่าเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกครับ) เสียดายที่ทีมงานท่องเที่ยวดอทคอมของพวกเราไม่ได้แวะมาเก็บภาพอาทิตย์อัสดง ณ สวนหินแห่งนี้เพราะเลือกปีนขึ้นไปบน “ผาซำทอง” ซึ่งเป็นจุดชมทิวทัศน์พระอาทิตย์ตกอีกแห่งหนึ่งแทน แต่ผลลัพธ์ที่ได้จากการตะเกียกตะกายขึ้นไปยังผาซำทองก็คือมองไม่เห็นพระอาทิตย์ตกเนื่องจากมีเมฆฝนกลุ่มใหญ่บดบังขอบฟ้าทางด้านทิศตะวันตกไปจนหมดแถมยังไม่พบไลเคนสีเหลืองทองบนยอดผาอีกด้วย (ผาซำทอง เป็นแหล่งน้ำซับซึ่งในภาษาอีสานเรียกว่า “ซำ” และการที่ได้ชื่อว่าผาซำทองนั้นเนื่องมาจากว่าในสมัยก่อนจะมีไลเคนสีเหลืองคล้ายกับทองขึ้นอยู่บนยอดผาเป็นจำนวนมาก แต่ในช่วงปลายเดือน ต.ค. 2552 ซึ่งทีมงานของเราขึ้นมาเก็บข้อมูล ณ อุทยานแห่งชาติภูเรือนี้กลับไม่พบไลเคนสีเหลืองทองอันเป็นที่มาของชื่อผาดังกล่าวครับ)
|
หินเต่า และบรรยากาศริมเส้นทางบนอุทยานแห่งชาติภูเรือ ที่ตอนนี้เผยให้เห็นความงามได้ชัดเจน |
|
นานาพันธุ์ไม้และใบหญ้าระหว่างเส้นทางธรรมชาติที่สวนหินพาลี |
|
ก้อนหิน ดอกไม้ และภูเขา เมื่อมารวมกันกลายเป็นศิลปะทางธรรมชาติที่ตระการตา |
|
ท่ามกลางความเขียวขจีของใบไม้ ยังมีสีสันแห่งความงามซ่อนตัวอยู่ |
คำแนะนำของทีมงานท่องเที่ยวดอทคอมภายหลังจากได้เปรียบเทียบมุมมองทางด้านทิศตะวันตกของ “สวนหินพาลี” และ “ผาซำทอง” แล้วคิดว่าการเลือกชมพระอาทิตย์ตก ณ สวนหินพาลีน่าจะมีความงดงามมากกว่า สำหรับแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจอื่นๆ บนอุทยานแห่งชาติภูเรือ อาทิเช่น หินวัวนอน , หินพานขันหมาก,ลานสาวเอ้ ,ลานหินแตก ,ฯลฯ นั้น หากกลุ่มของคุณมีเวลาเหลือมากพอก็สามารถขอรับแผนที่เส้นทางศึกษาธรรมชาติจากเจ้าหน้าที่ ณ ที่ทำการอุทยานฯหรือจุดกางเต็นท์ (ศูนย์บริการที่ 2) เพื่อเดินเที่ยวสำรวจด้วยตัวเองได้
โทรศัพท์ : อุทยานแห่งชาติภูเรือ (042) 801-716
การเดินทาง : รถยนต์ส่วนตัวจาก อ.เมือง จ.เลย ใช้ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 203 (เลย – หล่มสัก) มุ่งหน้าสู่
อ.ภูเรือ เมื่อถึงตัว อ.ภูเรือให้สังเกตถนนฝั่งตรงข้ามด้านขวามือจะมีป้าย “อุทยานแห่งชาติภูเรือ” อยู่ ให้กลับรถแล้วเลี้ยวซ้ายเข้าซอยไปตามป้ายดังกล่าว ขับตรงไปเรื่อยๆก็จะถึงด่านตรวจของอุทยานแห่งชาติภูเรือ
รถประจำทางจาก อ.เมือง จ.เลย นั่งรถสายเลย – หล่มสัก หรือ รถสายเลย – ภูเรือ ลงรถที่ อ.ภูเรือแล้วเหมารถรับจ้างขึ้นสู่อุทยานแห่งชาติภูเรือต่อ
หมายเหตุ : เก็บข้อมูลอุทยานแห่งชาติภูเรือเมื่อ ต.ค. 2552
ขอขอบคุณ : ข้อมูลการเดินทางสู่อุทยานแห่งชาติภูเรือบางส่วนจากหนังสือท่องเที่ยวจังหวัดเลยของนายรอบรู้ สำนักพิมพ์สารคดี
อุทยานแห่งชาติภูเรือ อ.ภูเรือ หน้า 1 2
|
|